วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

โจ๋กาฬสินธุ์โหด แค่ไม่พอใจชักปืนซัดลูกชาย ผญบ.ดับคาที่

กาฬสินธุ์ - โจ๋กาฬสินธุ์โหด แค่ตะโกนถาม ไม่พอใจชักปืนยิงสวนพลทหารฯ
ลูกผู้ใหญ่บ้านดับ
ด้านร้อยเวรฯระบุเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีปัญหากันมาตั้งแต่สงกรานต์
คาดปมยิงจากแค้นส่วนตัว

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (27 ก.ค.) ที่ห้องพักศพ
โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ร.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสิน พนักงานสอบสวน
สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมแพทย์เวรฯ ชันสูตร รพ.กาฬสินธุ์
ทำการชันสูตรพลิกศพหนุ่มวัยรุ่นถูกยิงในงานบุญหมู่บ้าน
และถูกส่งตัวมารับการรักษาที่โรงพยาบาลฯ
โดยพบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 1 นัด
บริเวณช่องท้องด้านบนกระสุนเข้าไปตรงขั้วลิ้นปี่ขาด
ซึ่งแพทย์พยายามที่จะช่วยเหลือแต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวจเสียชีวิตในเวลา
ต่อมา

โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับนายสวัสดิ์ กันทา อายุ 42 ปี
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพ่อผู้ตาย
พร้อมญาติและเพื่อนที่อยู่ในอาการเศร้าโศก
และได้สอบถามทราบว่าผู้ตายชื่อนายวิชิต กันทา อายุ 21 ปี
ซึ่งเป็นลูกชายของนาสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2
และถูกยิงอยู่ที่หน้าบ้าเลขที่ 182 หมู่ 2 ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก ฯ
ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตาย
เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังมีเรื่องเขม่นกันกับวัยรุ่นในหมู่บ้านเดียวกัน

นายสวัสดิ์ กันทา อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.คำใหญ่
อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เพราะลูกชายกำลังจะเป็นหลักให้กลับครอบครัว
แต่ต้องมาตายไปอย่างน่าเสียดาย
และเท่าที่ทราบมาคนที่ยิงก็เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน
เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่แต่ก่อนก็เป็นเพื่อเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ
ส่วนสาเหตุความไม่พอใจจนกระทั่งยิงกันกันน่าจะมาจากความฝังใจที่มีเรื่องทะ
เลากันมาตั้งแต่ช่วงสงกรานต์

ส่วนในเรื่องคดีทางญาติคงจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย
แต่ก็อยากให้เร่งติดตามตัวและจับคนร้ายมาให้รวดเร็วที่สุด
เพราะพฤติกรรมมันโหดเกินไป
เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อชาวบ้านทั่วไปเพราะมีอาวุธในมือ
ส่วนตอนนี้ก็คงนำศพลูกชายไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
และต้องแจ้งไปยังต้นสังกัดฯ เนื่องจากลูกชายเป็นพลทหารฯ
ในค่ายเปรมติณสูลานนท์ จ.ขอนแก่น

ขณะที่ นายโกวิท รังไชย อายุ 21 ปี
เพื่อนของผู้ตายที่อยู่ในที่เกิดเหตุเล่าว่า
ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายไปดูหนังกลางแปลงในงานบุญบริเวณใกล้ๆ
กับบ้านของนายวิชิต
สักพักก็มีวัยรุ่นแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใครโยนกีตาร์มาในวงของตนและนายวิชิต
ก็ไม่ว่าอะไรจึงพากันกลับบ้าน และสักพักมีวัยรุ่น 3
คนเดินมานายวิชิตจึงตะโกนถามและเดินเข้าไปหาวัยรุ่นทั้ง 3 คนกลางถนน
ส่วนตนรออยู่หน้าบ้านและก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 ครั้งจึงวิ่งเข้าไปดู
พบนายวิชิตนอนจมกองเลือดจึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนคนร้ายทั้ง 3
คนรู้ว่าเป็นใคร เพราะเดิมทีเป็นเพื่อนเก่ากันมาก่อน

ด้าน พ.ต.ท.รัฐพงษ์ ทองชื่นตระกูล พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก
กล่าวว่า ขณะนี้ทราบตัวคนร้ายทั้ง 3 คนแล้ว
และกำลังออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ซึ่งพฤติกรรมของวัยรุ่นครั้งนี้ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจ โหดร้ายมาก
เบื้องแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งวัยรุ่นทั้ง 2
กลุ่มมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันมาตั้งแต่สงกรานต์
ซึ่งการยิงอริเก่าครั้งนี้น่าจะมาจากความแค้นส่วนตัว

อย่าง ไรก็ตาม ทางผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบประวัตินายวิชิต
ซึ่งเป็นพลทหารในสังกัดกองพันทหารม้าที่ 6 ค่าเปรมติณสูลานนท์ จ.ขอนแก่น
แต่ขณะนี้กำลังถูกต้นสังกัดดำเนินคดีหลังหนีราชการมา 2-3 เดือนแล้ว

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เมืองน้ำดำจัดมหกรรมวิจิตรแพรวาฯ ยิ่งใหญ่ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ 12 สิงหา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2552 13:59 น.
กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ร่วม
ททท.จัดงานมหกรรมวิจิตรแพรวาราชินีแห่งไหม ประจำปี 52
เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม
และเผยแพร่ผ้าไหมแพรวา และแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดกาฬสินธุ์

นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า
จังหวัดกาฬสินธุ์ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์
กำหนดจัดงานมหกรรมวิจิตรแพรวาราชินีแห่งไหมในระหว่างวันที่ 7-12 สิงหาคม
2552 ที่โรงแรมริมปาว หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
และสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ขึ้น
เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนผ้าไหมไทย และในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12
สิงหาคม 2552

นอกจากนี้ยังเป็นการเผยแพร่ผ้าไหมแพรวา
ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งผ้าไหม เนื่องจากมีความวิจิตรงดงาม
และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์
ให้เป็นที่รู้จักและนิยมของผู้ชอบสวมใส่ผ้าไหมทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าโอทอป
ของจังหวัดกาฬสินธุ์
ตลอดจนเผยแพร่ชื่อเสียงและแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดกาฬสินธุ์อีกด้วย

นายเดชากล่าวอีกว่า
สำหรับกิจกรรมการจัดงานในปีนี้ได้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี โดยในวันที่ 6-7
สิงหาคม เป็นการประกวดธิดาแพรวา รอบแรก และรอบตัดสินชิงเงินรางวัล 50,000
บาท พร้อมสายสะพายและถ้วยรางวัล ณ โรงแรมริมปาว
มีการแสดงแบบผ้าไหมแพรวาหลากสี หลายสไตล์ โดยนายแบบและนางแบบกิตติมศักดิ์
การแสดงแสง สี เสียง ตำนานผ้าไหมแพรวา
เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 7-12 สิงหาคม 2552
ยังมีการแสดงจำหน่ายผ้าไหมแพรวา และสินค้า OTOP ราคาถูก
การประกวดวรรณศิลปเกี่ยวกับผ้าไหมแพรวา การแสดงดนตรี ศิลปะ
วัฒนธรรมพื้นบ้าน ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
และสนามหน้าศาลกาลางจังหวัดกาฬสินธุ์

ในคืนวันสุดท้ายของงานนี้ คือวันที่ 12 สิงหาคม 2552
ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดให้มีการจุดเทียนชัยถวายพระพร ณ
สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์อย่างยิ่งใหญ่ของพสกนิกรชาวกาฬสินธุ์

กรมกร๊วกติวเข้มเยาวชนเรียนรู้การปกครองระบอบ ปชต.

กาฬสินธุ์ - กรมประชาสัมพันธ์ร่วมกับโรงเรียนหนองสอพิทยาคมจัดอบรมส่งเสริมการปกครอง
ระบอบประชา ธิปไตย เพื่อให้ความรู้
และส่งเสริมการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 6
ก.ย.52 แก่นักเรียนระดับมัธยมปลาย

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 ก.ค.) นายประสิทธิ์ คชโคตร
ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการปกครองระบบประชาธิปไตย
ให้แก่นักเรียน ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ร่วมกับโรงเรียนหนองสอพิทยาคมจัดขึ้น
เพื่อรณรงค์สร้างความเข้าใจให้กับเยาวชนในสถานศึกษาเกี่ยวกับการปกครองใน
ระบบประชาธิปไตยและร่วมเป็นเครือข่ายในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อครอบครัว
หมู่บ้าน ชุมชน เพื่อให้การเลือกตั้งทุกระดับ

โดยเฉพาะการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความโปร่งใส
สุจริต ยุติธรรม ปราศจากการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง โดยนายสมพงษ์ ปัตตานี
ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ หัวหน้าส่วนราชการ ครู
นักเรียนเข้าร่วมกว่า 300 คน ที่ห้องประชุมโรงเรียนหนองสอพิทยาคม
ต.หนองสอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

นายสมพงษ์ ปัตตานี ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า
กรมประชาสัมพันธ์ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการประชาสัมพันธ์
โดยได้เล็งเห็นความสำคัญของการประชาสัมพันธ์ในการส่งเสริมการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตย จึงได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์
จัดทำกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่เยาวชนในสถานศึกษา
ภายใต้โครงการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยให้กับ
เยาวชนนักเรียน นักศึกษา

เพื่อ รณรงค์สร้างความเข้าใจให้กับเยาวชนในสถานศึกษาเกี่ยวกับความสำคัญของการ
ปกครองในระบบประชาธิปไตย
และร่วมเป็นเครือข่ายในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อครอบครัว หมู่บ้าน
ชุมชน เพื่อให้การเลือกตั้งทุกระดับ

โดยเฉพาะ
การเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะมีการเลือกตั้งพร้อมกันทั่ว
ประเทศ ในวันที่ 6 กันยายน 2552 นี้ ให้มีความโปร่งใส สุจริต ยุติธรรม
ปราศจากการซื้อสิทธิขายเสียง
และได้คนดีมีคุณธรรมเข้าไปทำงานด้านการเมืองในระดับท้องถิ่น
และระดับประเทศ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

กองกำลัง อส.ทลายบ่อนวิ่งกลางเมืองกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์- กองกำลังผสม อส.จ.กาฬสินธุ์ กว่า 50 นาย
บุกทลายบ่อนวิ่งกลางเมืองกาฬสินธุ์ ได้นักพนันชาย-หญิงกว่า 15 คน
หลังชาวบ้านสุดทน ส่งจดหมายร้องเรียนถึงพ่อเมืองเมืองน้ำดำ
ให้ช่วยจัดการบ่อนวิ่ง

วันนี้ (21 ก.ค.) นายสุวัจน์ เข็มเพชร ป้องกันจังหวัดกาฬสินธุ์
นายสมชาย ฤาวิเศษไพบูลย์ ป้องกันอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นายพิชัยยา สุระซอง
ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด
นำกองกำลังผสมอาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดกาฬสินธุ์ (อส.)
จากหลายอำเภอกว่า 50 นาย บุกเข้าทลายบ่อนวิ่งที่ลักลอบเล่นพนัน
อยู่ข้างโรงเรียนหนองบัวราษฎรนิยม ตำบลโพนทอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์
โดยได้ของกลางไพ่และอุปกรณ์การเล่นโบก เงินของกลางจำนวนมาก
ทั้งจับกุมนักพนันชาย-หญิง 15 คน

นายสุวัจน์ เข็มเพชร ป้องกันจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า
การเข้าจับกุมครั้งนี้ นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์
ได้รับจดหมายร้องเรียนจากประชาชนในหลายอำเภอว่า
มีการลักลอบเล่นการพนันโดยจะเคลื่อนย้ายการเล่นไปตามชุมชนต่างๆ
ทั้งในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์และในอีกหลายอำเภอ
สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เพราะการเล่นพนันไม่เกรงกลัวกฎหมาย

จึงให้สายลับของ อส.เข้าติดตามหาข่าว จนทราบว่าการเล่นพนันทั้งไพ่
ไฮโล และโบก เกิดขึ้นจริง และสืบทราบมาว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน
จึงได้จัดกำลังเข้าติดตามจับกุมจนได้นักพนันดังกล่าว
และหากประชาชนมีข้อมูลของการลักลอบเล่นพนัน สามารถแจ้งมาได้ที่
ป้องกันจังหวัดกาฬสินธุ์

ในส่วนของผู้ต้องทั้งหมด รวมถึงของกลางเจ้าหน้าที่
ได้นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ดำเนินคดีต่อไป


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000082408

ดึงยุวกาชาดร่วมเครือข่ายรณรงค์ป้องกันหวัด 2009

กาฬสินธุ์- โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์จัดงานพิธีเข้าประจำหมู่สมาชิกยุวกาชาดใหม่
ประจำปี 2552 พร้อมดึงให้ร่วมเป็นเครือข่ายสร้างความดีเพื่อสังคมและร่วมเฝ้าระวังเผยแพร่
วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009

วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ นางพิไลลักษณ์ ตันติยวรงค์
นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์
เป็นประธานพิธีเข้าประจำหมู่และมอบเครื่องหมายให้กับสมาชิกยุวกาชาด
หมู่ยุวกาชาดโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ประจำปี 2552
ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อให้สมาชิกยุวกาชาดทุกคนได้เห็นความ
สำคัญของการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคมและบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม
โดยมีคณะอาจารย์ สมาชิกยุวกาชาดเข้าร่วมกว่า 200 คน

นางพิไลลักษณ์ ตันติยวรงค์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์
กล่าวว่า กิจการยุวกาชาดนั้นเป็นภารกิจที่สำคัญด้านหนึ่งของสภากาชาดไทย
เพราะสมาชิกยุวกาชาดเป็นเยาวชนที่เป็นกำลังของประเทศ

ดังนั้น การปลูกฝังให้เยาวชนได้เข้าใจในหลักการและอุดมการณ์ของกาชาดอย่างแพร่หลายจะ
ทำให้มีพลังของอาสาสมัครที่จะเข้ามาร่วมปฏิบัติงานกับสภากาชาด
เพื่อให้เกิดผลตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้
กิจกรรมเข้าประจำหมู่สมาชิกยุวกาชาดเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ต้องการให้สมาชิก
ยุวกาชาดทุกคนได้เล็งเห็นความสำคัญของการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือและบำเพ็ญ
ประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมพิธีเข้าประจำหมู่ยังก่อให้เกิดความภาคภูมิใจและได้
รับเกียรติที่สมัครเข้าเป็นสมาชิก

นางพิไลลักษณ์กล่าวอีกว่า
ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009
ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ฝนตกบ่อยครั้ง
ดังนั้นจึงฝากสมาชิกยุวกาชาดทุกคนซึ่งทำหน้าที่เพื่อสังคมอยู่แล้วต้องดูแล
รักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง
ที่สำคัญให้ร่วมเป็นเครือข่ายนำข้อมูลข่าวสาร ความรู้
ตลอดจนวิธีการดูแลรักษาป้องกันโรคได้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009
กลับไปเผยแพร่ต่อกับครอบครัว เพื่อน และคนใกล้ชิด

โดย เฉพาะวิธีการป้องกันโรค
ควรหลีกเลี่ยงอยู่ในสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค เช่นห้างสรรพสินค้า
โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง หากจำเป็นควรที่สวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ
ทั้งนี้หากป่วยเป็นไข้สูง ไอ จาม เจ็บคอ
ต้องรีบเข้ารักษากับแพทย์ในโรงพยาบาลทันที

ชาวกาฬสินธุ์พอใจได้ดู "กบกินตะวัน" ครึ่งเสี้ยว

กาฬสินธุ์ - บรรยากาศเฝ้าชมปรากฏการณ์ธรรมชาติสุริยุปราคาที่ จ.กาฬสินธุ์
คึกคัก ประชาชนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มหัศจรรย์ทั้งฟ้าปิดตั้งแต่เช้า
แต่ยังสามารถชมตั้งได้เวลา 08.11 น.
ชาวเมืองน้ำดำพอใจสุริยุปราคาถึงแม้จะดูได้ครึ่งเสี้ยว

นายสุประณีต ยศกลาง
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด
กาฬสินกล่าวว่า ที่ห้องสมุดประชาชน จ.กาฬสินธุ์
เป็นจุดที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้มาชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาได้จัด
เตรียมอุปกรณ์ เช่น กล้องดูดาว ,
แผ่นกรองแสงพิเศษที่ใช้สำหรับดูพระอาทิตย์ แต่ช่วงเช้าท้องฟ้าเกิดปิด
มีเมฆปิดบังดวงอาทิตย์ ผู้ที่มารอตั้งแต่เช้าไม่สามารถดูสุริยุปราคาได้
จึงได้เข้าไปชมปรากฏการณ์จากประเทศอื่นแทนในอาคารกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี เพื่อรอท้องฟ้าเปิด

จนกระทั่งเวลา 08.11 น.
ท้องฟ้าได้เปิดจึงสามารถมองเห็นสุริยุปราคาครึ่งเสี้ยว
ทำให้ผู้มารอดูตั้งแต่เช้ารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
ส่วนความชื่อที่ว่าปรากฏการณ์อย่างนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดี
ผู้ที่มาชมก็ไม่ได้เชื่อแต่อย่างใดเพราะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเท่านั้น
ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชน นักเรียน นักศึกษา
มาขออุปกรณ์เพื่อชมสุริยุปราคาจำนวนมาก ซึ่งอุปกรณ์ที่เตรียมไว้กว่า 300
ชุด หมดอย่างรวดเร็ว

ด้าน น.ส.สุรภา มหาพรม นักศึกษา จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า
ประทับใจมากถึงแม้ว่าจะได้ดูแบบครึ่งเสี้ยวก็ตาม
ถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ดูสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติ
ตั้งแต่เกิดมาเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัส
หลังจากเข้าไปศึกษาเรียนรู้และสอบถามจากผู้ใหญ่
รู้แต่เพียงว่าสุริยุปราคาเกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อ 20 มิถุนายน 2498
เป็นสิ่งหนึ่งที่จะต้องจดจำในชีวิต ส่วนเรื่องความเชื่อเรื่องอัปมงคล
เป็นความเชื่อส่วนบุคคลก็ฟังหูไว้หู เชื่อก็ยึดถือปฏิบัติ
ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่

อย่าง ไรก็ตาม เมื่อถึงเวลา 08.11 น.
ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุริยุปราคาได้เกิดขึ้น
สร้างความตื่นตะลึงให้กับประชาชนที่เฝ้ารอคอยเป็นอย่างมาก
โดยบรรยากาศเริ่มสลัวไม่มืดสนิท และเป็นเวลานานกว่า 6 นาที
ซึ่งบรรยากาศการชมสุริยุปราคาที่ จ.กาฬสินธุ์
นับว่าคึกคักและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เพราะอีกนานมากจึงจะมีโอกาสได้ดูปรากฏการณ์ธรรมชาติเช่นนี้อีก

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000082825

งามหน้า! ตร.กาฬสินธุ์เมินรับแจ้งพ่อแม่บังคับลูกเร่ขอทาน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2552 16:10 น.
กาฬสินธุ์ - ภายหลังหัวหน้าบ้านเด็กและครอบครัวกาฬสินธุ์
ควบคุมตัวพ่อแม่บังคับลูกสาววัย 4 ขวบ และลูกชายวัย 7 ขวบ
เร่ขอทานในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์
จนชุดคุ้มครองเด็กใช้เวลาติดตามแรมเดือน
สามารถจับได้ระหว่างถูกบังคับให้ขอทาน แต่กลับถูก ตร.เมืองกาฬสินธุ์
ปฏิเสธรับแจ้งความร้องทุกข์ ล่าสุดพ่อแม่พาเด็กหนีออกนอกจังหวัด
ลั่นงานนี้ตำรวจต้องรับผิดชอบ

วันนี้ (22 ก.ค.) ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์
นายสุพัฒน์ สุระดนัย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์
ได้เชิญสื่อมวลชนเข้ารับฟังการปฏิบัติหน้าที่ ภายหลังจากที่กลางดึกวานนี้
หน่วยเฉพาะกิจคณะกรรมการคุ้มครองเด็กและสตรีจากทุกภาคส่วน
ได้ทำการช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 4 ขวบ และเด็กชายวัย 7 ขวบ
ซึ่งถูกพ่อแม่บังคับให้ไปขอทานในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

แต่ปรากฏว่า หลังจากเจ้าหน้าที่คณะกรรมการคุ้มครองเด็กฯ
เข้าทำการช่วยเหลือพร้อมกับควบคุมตัวพ่อแม่เด็กส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจ
ภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธที่จะรับดำเนินคดี

นายสุพัฒน์ สุระดนัย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์
กล่าวว่า การเข้าช่วยเหลือทั้งจากเจ้าหน้าที่รวมไปถึงนโยบายของรัฐบาลก็นับเป็นสิ่ง
ที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันแก้ไข
แต่ในกรณีนี้รู้สึกผิดหวังกับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ เหตุการณ์เข้าช่วยเหลือนั้นเกิดขึ้นในช่วงกลางดึกของวันที่
21 กรกฎาคม 2552 โดยหน่วยเฉพาะกิจคณะกรรมการคุ้มครองเด็กและสตรี
จ.กาฬสินธุ์ นำโดยตนเองได้เข้าควบคุมตัวสองสามีภรรยาคือนายอุทิศ ภูครอง
อายุ 46 ปี และนางลำพูน ภูอาบทอง อายุ 26 ปี ชาว ต.คลองขาม อ.ยางตลาด
จ.กาฬสินธุ์

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม จนพบว่า
มีการบังคับเด็กชายวัย 7 ขวบ และเด็กหญิงวัย 4 ขวบ
สองพี่น้องซึ่งเป็นลูกแท้ๆ ออกไปเร่ขอทานตามสะพานลอย
ตามร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์
จนทำให้ผู้ที่พบเห็นได้ไปแจ้งเรื่องเอาไว้ให้ติดตาม
จนสามารถสืบรู้และทำการควบคุมตัวมาได้ระหว่างนำเด็กทั้งสองคนไปปล่อยลงข้าง
สะพานลอยบริเวณตลาดทุ่งศรีเมือง

หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวต่อว่า
พฤติกรรมของเด็กสองคนที่ออกมาเร่ขอทานตามร้านอาหารต่างๆ ในเขตเทศบาลเมือง
จ.กาฬสินธุ์ สองพี่น้องนั้นจะเดินขอเงินกับประชาชนและเมื่อได้เงินก็จะวิ่งเอาเงินไปให้
พ่อและแม่ที่รออยู่บริเวณเดียวกัน จากนั้นก็จะไปขออีกเรื่อยๆ
ประชาชนที่พบเห็นก็รู้สึกเวทนา
จนได้ติดตามวางแผนเข้าช่วยเหลือได้เมื่อคืนนี้

แต่ ขณะที่กำลังนำตัวพ่อแม่เด็กส่งต่อพนักงานสอบสวน
สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กลับไม่รับแจ้งความทั้งนี้ร้อยเวรเมื่อคืนนี้ คือ
ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ เกกาคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์
ปฏิเสธที่จะไม่รับแจ้งความในคดีนี้

โดย อ้างว่าไม่มีในข้อกฎหมายไม่ใช่การค้ามนุษย์ ทั้งนี้
ตนได้พยายามอธิบายถึงสิทธิของมนุษยชนที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามรัฐ
ธรรมนูญปี 2550 ซึ่งก็ได้ถกเถียงถึงข้อกฎหมายนานกว่า 1 ชั่วโมง
แต่ทางร้อยเวรก็ยังยืนยันที่จะไม่รับแจ้งความ
แม้จะมีผู้บังคับบัญชาระดับรองผู้กำกับการฯเข้ามาชี้แนะว่าสามารถดำเนินคดี
ได้ พนักงานสอบสวนยังได้สั่งให้ปล่อยตัวพ่อแม่เด็กไปด้วย

"ที่จริงแล้วพฤติกรรมของครอบครัวนี้ เราได้ติดตามมานานกว่า 1
เดือน มีลักษณะความผิดที่ชัดเจน บ้านเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์
ต้องการเพียงแค่คุ้มครองเด็กให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าการถูกทรมาน
ซึ่งตำรวจสามารถใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯเข้ามาแก้ปัญหานี้ได้
ทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปส่งเสริมอาชีพให้กับครอบครัว"

แต่การปฏิเสธการปฏิบัติหน้าที่ของร้อยเวร สภ.เมือง กาฬสินธุ์
ทำให้รู้สึกผิดหวังมาก
เหมือนกับสังคมขาดกำลังสำคัญในการดูแลเพราะเรื่องนี้ถือเป็นหน้าที่โดยตรง
เช่นกันของผู้พิทักษ์สันติราษฎร

นายสุพัฒน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้แจ้งไปทาง
นางอัจฉรา พุ่มมณีกร
หัวสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ทราบรายละเอียด
เพื่อทำหนังสือสอบถามไปยัง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์
ในฐานะรองประธานคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิเยาวชนและสตรีอีกครั้งว่าเรื่องนี้
เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะต้องติดตามกรณีต่อไปจนถึงที่สุด
พร้อมกับจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิเด็กและสตรีจ.
กาฬสินธุ์ เพื่อแจ้งให้ทุกส่วนราชการได้รับทราบพฤติกรรมของพนักงานสอบสวนคนนี้

มีรายงานแจ้งว่า ภาย
หลังจากที่เมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปล่อยตัว
พ่อแม่และเด็กออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็กและสตรี
ได้ติดตามไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่บ้านพักปรากฏว่าครอบครัวนี้ได้หายไปจาก
จังหวัดกาฬสินธุ์
ซึ่งหลายฝ่ายจึงมีความเป็นห่วงชะตากรรมของเด็กทั้งสองคนนี้เป็นอย่างมาก